-
หลังจาก 1 เดือน
คุณจะต้องจ่าย บ. -
หลังจาก 6 เดือน
คุณจะต้องจ่าย บ. -
หลังจาก 1 ปี
คุณจะต้องจ่าย บ. -
หลังจาก 5 ปี
คุณจะต้องจ่าย บ.
ข้อมูลจากมูลนิธิไทยโรดส์ ภายใต้การสนับสนุนของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) ระบุว่า สมองมีกลไกควบคุมการหลับและการตื่นในส่วนที่เรียกว่า “ไฮโปธาลามัส” ส่วนสำคัญส่วนนี้จะทำหน้าที่ควบคุมจังหวะการตื่นและการนอนตลอดระยะเวลา 24 ชั่วโมง โดยปัจจัยของเวลาและความอิ่มท้องจะเป็นหนึ่งในตัวกระตุ้นที่จะส่งผลให้มนุษย์รู้สึกตื่นตัวหรือง่วงนอน
“การหลับใน” คือ การหลับในระยะเวลาสั้น ๆ เพียงชั่ววูบเดียว เป็นภาวะที่ร่างกายมีการทำงานลดลง หรือช้าลง เป็นการสับสนระหว่างการหลับในและการตื่น โดยมีการหลับเข้ามาแทรกการตื่นอย่างเฉียบพลันโดยไม่รู้ตัวในช่วงเวลาสั้น ๆ เพียง 1-2 วินาที นอกจากนี้กรมสุขภาพจิตระบุว่า “การหลับใน” เป็นอันตรายเช่นเดียวกับการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะผลต่อการทำงานของสมองส่วนประมวลผล (brain processing) ทำให้การตัดสนใจแย่ลง (Impair judgment) การตอบสนองช้าลง (slower reflexes) ในขณะที่นักวิจัยจาก The University Of New south Wales และ University of Otago ค้นพบว่า การอดนอนเป็นเวลา 17-19 ชั่วโมง เปรียบเหมือนร่างกายมีระดับแอลกอฮอล์ในเลือดเท่ากับ 0.05 (ระดับอ้างอิงตามกฎหมายต้องต่ำว่า 0.05) หมายความว่าหากเราอดนอน 17- 19 ชั่วโมงแล้วไปขับรถก็เท่ากับว่าทำผิดกฎหมาย
การขับรถในขณะง่วง อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุและทำให้ผู้ขับรวมถึงผู้โดยสารถึงแก่ชีวิตได้ แม้ว่าอาการหลับในจะเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ แต่ก็นานพอที่จะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ ดังนั้นเราจึงควรตระหนักรู้ถึงสัญญาณเตือนเหล่านี้ เพื่อที่จะได้แวะพักผ่อนเพื่อความปลอดภัยในการขับขี่
นอกจากนี้ นายสง่า ดามาพงษ์ ผู้ทรงคุณวุฒิ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ได้ให้คำแนะนำสำหรับผู้เดินทางไกลว่า ให้ผู้ขับขี่จอดรถพักทุก 150 กิโลเมตร เพื่อให้ร่างกายไม่เมื่อยล้าเกินไป เตรียมอาหารแก้ง่วงระหว่างขับ โดยสิ่งที่ได้ผลดีคือผลไม้รสเปรี้ยว เพราะจะช่วยกระตุ้นประสาทให้สดชื่น หรือเตรียมน้ำแข็งก้อนไว้ให้คนขับอมหรือถูขมับ หรือปิดแอร์เปิดกระจกให้รู้สึกสดชื่นขึ้น และหากไม่ไหวจริง ๆ ให้หาที่ปลอดภัยจอดรถนอนพัก 10-15 นาทีก่อนไปต่อ และหากรู้ตัวว่าไม่พร้อมไม่ควรเดินทางคนเดียว ควรหาคนนั่งไปเป็นเพื่อนหรือสลับกันขับรถด้วย
การหลับใน ไม่ใช่เรื่องที่ควรมองข้าม เพราะอาจส่งผลร้ายแรงอย่างไม่คาดคิดถึงขั้นเสียชีวิตได้ หากเริ่มรู้ตัวว่าง่วงนอนขณะขับขี่ ก็อย่าพยายามฝืนขับรถต่อไป แต่ให้รีบมองหาที่พักเพื่อลงไปล้างหน้าล้างตา ยืดเส้นยืดสาย หรือพักหลับสักประมาณ 10 นาที ก็จะช่วยทำให้รู้สึกสดชื่นได้ รวมถึงการเคารพกฎจราจรอย่างเคร่งครัดขณะขับขี่ ก็จะช่วยลดความเสี่ยงของอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้น และถึงที่หมายอย่างปลอดภัย
ขอขอบคุณ
ข้อมูล :มูลนิธิไทยโรดส์ และเอกสารข้อมูล สืบเจาะ (คน) ต้นเหตุ - อุบัติเหตุ โดย ศูนย์วิชาการเพื่อความปลอดภัย ทางถนน (ศวปถ.) หรือ Road Safety Group Thailand (RSG)
ภาพ :iStock
18 ก.ค. 65 / อ่าน 1402
14 ก.ค. 65 / อ่าน 1224
12 ก.ค. 65 / อ่าน 1472
11 ก.ค. 65 / อ่าน 1578
5 ก.ค. 65 / อ่าน 949
4 ก.ค. 65 / อ่าน 1026