-
หลังจาก 1 เดือน
คุณจะต้องจ่าย บ. -
หลังจาก 6 เดือน
คุณจะต้องจ่าย บ. -
หลังจาก 1 ปี
คุณจะต้องจ่าย บ. -
หลังจาก 5 ปี
คุณจะต้องจ่าย บ.
“กรมสุขภาพจิต” ชี้ปมปัญหาฆ่าตัวตายสลับซับซ้อน/มีหลายปัจจัยร่วม ระบุที่พบบ่อยสุดคือ ความสัมพันธ์ สุรา โรคทางกาย โรคจิตเวช ปัญหาเศรษฐกิจ ผลกระทบจะแตกต่างกันไป ขึ้นกับทักษะในการใช้ชีวิต
นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวถึงความเชื่อมโยงระหว่างปัญหาการฆ่าตัวตายและปัญหาด้านเศรษฐกิจที่เป็นประเด็นที่สังคมกำลังให้ความสนใจว่า จากการวิเคราะห์ข้อมูลการเสียชีวิตจากการฆ่าตัวตายสำเร็จ ปี 2561-2562 พบว่า ปัญหาการฆ่าตัวตายนั้น มีความสลับซับซ้อนและเกิดจากกลุ่มปัจจัยที่มีการซ้อนทับกัน โดยปัญหาที่เป็นปัจจัยร่วมที่พบได้บ่อยที่สุด คือ ปัญหาความสัมพันธ์ (53.04%) รองลงมาเป็นการใช้สุรา (29%) โรคทางกาย (25.7%) โรคจิตเวช (19.8%) และปัญหาเศรษฐกิจ (18.33%)
นอกจากนั้น กรมสุขภาพจิตได้วิเคราะห์คัดแยกผู้เสียชีวิตจากการฆ่าตัวตายสำเร็จที่มีการระบุถึงปัจจัยสาเหตุทางเศรษฐกิจ พบว่า ลักษณะของปัญหาทางเศรษฐกิจไม่ใช่ปัจจัยเดียว ซึ่งทุกรายจะพบปัจจัยสาเหตุอื่นๆ ร่วมด้วยเสมอ เช่น ปัจจัยด้านโรคเรื้อรังทางกาย โรคทางจิตเวช การดื่มสุรา การใช้สารเสพติด และกลุ่มปัญหาความสัมพันธ์ เป็นต้น โดยกลุ่มปัญหาความสัมพันธ์ เช่น ทะเลาะกับคนใกล้ชิด น้อยใจจากการถูกดุด่าต่อว่า ความรักหึงหวง จะเป็นปัจจัยที่พบร่วมด้วยมากที่สุด
แต่ทั้งนี้ ผลกระทบที่มีต่อแต่ละบุคคลนั้นจะแตกต่างกันออกไป ปัญหาที่รุนแรงคล้ายกันอาจให้ผลกระทบที่แตกต่างกันออกไปได้ ขึ้นกับความช่วยเหลือจากคนรอบข้างและทักษะในการปรับตัวของแต่ละคน อาจกล่าวได้ว่า หากบุคคลใดต้องเผชิญกับปัญหาส่วนตัวอย่างรุนแรง แต่มีทักษะการปรับตัวที่ดี มีความยืดหยุ่น เรียนรู้จากความผิดหวัง และมีคนที่เข้าใจอยู่รอบข้าง ไม่ต่อว่ากันอย่างรุนแรง และเข้าใจซึ่งกันและกันแล้ว ก็จะเป็นปัจจัยปกป้องช่วยลดความเสี่ยงในการฆ่าตัวตายได้อย่างดี
ทั้งนี้ แม้ว่าปัญหาเศรษฐกิจจะเป็นปัจจัยร่วมที่พบได้ไม่มากนักในการเสียชีวิตจากการฆ่าตัวตายที่ผ่านมา กรมสุขภาพจิตจะยังคงติดตามปัญหาเรื่องการฆ่าตัวตายในสังคมไทยอย่างใกล้ชิดต่อเนื่อง และทำงานเชิงรุกประสานกับภาคประชาสังคมในการจัดการกับปัญหาในทุกมิติที่อาจนำไปสู่การสูญเสียในสังคมไทย โดยเฉพาะปัจจัยเรื่องความสัมพันธ์ ซึ่งเป็นสิ่งที่คนไทยควรให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก การเข้าใจ และใส่ใจรับฟังซึ่งกันและกัน ให้ผู้ที่กำลังมีปัญหาได้ระบายความรู้สึกออกมา เพื่อช่วยให้จิตใจดีขึ้นหรือสามารถผ่อนหนักให้เป็นเบา
แต่ถ้าปัญหานั้นยังคงสลับซับซ้อนหรือบุคคลนั้นยังมีความคิดทำร้ายตัวเองอยู่ตลอด ควรรีบพาไปพบจิตแพทย์ที่สถานพยาบาลใกล้บ้าน หรือติดต่อขอคำปรึกษาผ่านสายด่วนสุขภาพจิต 1323 ได้ฟรี ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อเป็นการป้องกันการสูญเสียจากปัญหาสุขภาพจิตทั้งอาการเจ็บป่วยและการฆ่าตัวตาย
https://siamrath.co.th/n/125079
18 ก.ค. 65 / อ่าน 1182
14 ก.ค. 65 / อ่าน 1028
12 ก.ค. 65 / อ่าน 1262
11 ก.ค. 65 / อ่าน 1351
5 ก.ค. 65 / อ่าน 830
4 ก.ค. 65 / อ่าน 891