-
หลังจาก 1 เดือน
คุณจะต้องจ่าย บ. -
หลังจาก 6 เดือน
คุณจะต้องจ่าย บ. -
หลังจาก 1 ปี
คุณจะต้องจ่าย บ. -
หลังจาก 5 ปี
คุณจะต้องจ่าย บ.
อาจจะคิดว่าโรคที่เกี่ยวกับดวงตาเป็นได้เฉพาะกับผู้สูงอายุ แต่ที่จริงแล้วด้วยพฤติกรรมในการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไป ทำให้ผู้คนที่อายุน้อยลงเสี่ยงเป็นโรคที่เกี่ยวกับดวงตาเร็วขึ้น และมากขึ้น
เฟซบุ๊กเพจ หมอแล็บแพนด้า หรือ ทนพ.ภาคภูมิ เดชหัสดิน นักเทคนิคการแพทย์ หัวหน้างานตรวจโรคติดเชื้อทางโลหิตวิธีอณูชีววิทยา ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย อธิบายถึงอันตรายจากโรคจอประสาทตาเสื่อมก่อนเวลาอันควร ภัยเงียบที่มากับวิถีชีวิตรูปแบบใหม่ เอาไว้ดังนี้
ทุกวันนี้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีก้าวล้ำนำสมัยไปมาก อินเตอร์เน็ตก็มีความไวสูง ทำให้เราต้องใช้ชีวิตติดหน้าจอ เพื่อการเรียน การทำงาน การติดต่อสื่อสาร เล่นโซเชียล ดูหนังฟังเพลง เล่นเกม หรือค้นหาพิกัดแฟนว่าอยู่ตรงไหน
ทั้งหมดนี้ทำให้เราใช้เวลาบนหน้าจอเพิ่มขึ้นโดยไม่รู้ตัว ถ้าเป็นแค่ช่วงสั้นๆ ก็คงไม่มีผลอะไรมากมายต่อร่างกาย แต่ถ้าเราใช้ชีวิตติดหน้าจอเป็นเวลายาวนาน โรคจอประสาทตาเสื่อมมันจะมาเยือนก่อนเวลาอันควรอย่างแน่นอนครับ นอกจากการติดจอยังมีสาเหตุอื่นๆที่ทำให้จอประสาทตาเสื่อม เช่น อายุ กรรมพันธุ์ โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคอ้วน ตาได้รับแสงแดดอย่างเรื้อรัง สูบบุหรี่ กินเหล้า ขาดอาหารมีประโยชน์ 5 หมู่
โรคจอประสาทตาเสื่อมนั้นมีทั้งหมด 2 ชนิด คือ
อาการที่มักจะเจอ ได้แก่
ปกติแล้วมักเจอในคนที่มีอายุมากกว่า 50 ปีขึ้นไป แต่ปัจจุบันเราพบโรคนี้ในผู้ที่มีอายุน้อยลง เนื่องจากการใช้ชีวิตติดหน้าจอที่มากเกินไป
ถึงแม้ว่าจะยังไม่มีรายงานการป้องกันโรคนี้อย่างแน่ชัด แต่อาจมีวิธีที่ช่วยลดความเสี่ยงได้ ดังนี้
วิธีเหล่านี้สามารถใช้เป็นแนวทางช่วยชะลอการเกิดโรคประสาทตาเสื่อมก่อนวัยอันควรได้เป็นอย่างดี
เพราะดวงตาเป็นอวัยวะที่เปราะบางและต้องการการดูแลเอาใจใส่เป็นพิเศษ เริ่มต้นดูแลดวงตาวันนี้ ลดความเสี่ยงต่อโรคจอประสาทตาเสื่อมก่อนเวลาอันควรกันดีกว่า
https://www.sanook.com/health/26433/
5 ก.ค. 65 / อ่าน 70
4 ก.ค. 65 / อ่าน 87
29 มิ.ย. 65 / อ่าน 148
22 มิ.ย. 65 / อ่าน 222
21 มิ.ย. 65 / อ่าน 249
17 มิ.ย. 65 / อ่าน 196