-
หลังจาก 1 เดือน
คุณจะต้องจ่าย บ. -
หลังจาก 6 เดือน
คุณจะต้องจ่าย บ. -
หลังจาก 1 ปี
คุณจะต้องจ่าย บ. -
หลังจาก 5 ปี
คุณจะต้องจ่าย บ.
นางสาวรุ่งอรุณ ลิ้มฬหะภัณ รักษาการผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนการควบคุมปัจจัยเสี่ยงหลัก สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า สถานการณ์โควิด-19 ที่ยังระบาดหนักและมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นทุกวัน คนที่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์คือ กลุ่มเสี่ยงที่ต้องระวังตัวเป็นพิเศษ โดยคาดการณ์ว่าประเทศไทยมีคนที่ดื่มทุกวันหรือเกือบทุกวันมากถึง 2 ล้านกว่าคน ในจำนวนนี้อาจเป็นผู้ติดสุรามากถึง 2 แสนกว่าคน ซึ่งกลุ่มนี้ถือว่าเป็นกลุ่มเสี่ยงและเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ เพราะฤทธิ์ของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มีผลต่อจิตประสาท ทำให้ความสามารถในการรู้เท่าทันการคิดและพฤติกรรมลดลง เช่น ขาดการยับยั้งชั่งใจในการทำสิ่งที่ไม่เหมาะสม มีพฤติกรรมเสี่ยงจากการดื่มร่วมแก้วเดียวกัน ซึ่งปัจจุบันมีหลักฐานทางวิชาการจำนวนมากยืนยันว่า ปัจจัยทางสังคม สถานที่ดื่ม และกิจกรรมบันเทิงต่างๆ สามารถเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดและแพร่เชื้อโควิด-19 ได้มากกว่าการสัมผัสร่างกายผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะพฤติกรรมเสี่ยงที่มาจากฤทธิ์น้ำมาทุกชนิด ถูกกระทำโดยที่ไม่มีสติ สัมปชัญญะ
“ในช่วงเข้าพรรษาปีนี้ยังอยู่ในช่วงการระบาดหนักของโควิด-19 สสส. อยากเชิญชวนให้ทุกคนใช้วันสำคัญทางพระพุทธศาสนาเป็นก้าวแรกของการลด ละ เลิกดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการทำให้สถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ดีขึ้น โดยปีนี้ สสส. จัดกิจกรรม “สื่อรักให้พักเหล้า ลดเสี่ยง เลี่ยงโควิด” ส่งเสริมให้คนไทยลด ละ เลิกดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตลอดชีวิต รวมถึงย้ำให้ทุกคนต้องสวมหน้ากาก ล้างมือ เว้นระยะห่าง และลดพฤติกรรมเสี่ยงติดเชื้อ เพื่อช่วยลดภาระบุคลากรทางการแพทย์ที่ทุ่มเทแรงกาย แรงใจ รักษาผู้ป่วยให้ผ่านพ้นวิกฤตโรคระบาดหนักไปด้วยกัน” นางสาวรุ่งอรุณ กล่าว
ผศ.นพ.ธีรยุทธ รุ่งนิรันดร อาจารย์ประจำภาควิชาจิตเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า การดื่มแอลกอฮอล์โดยเฉพาะในปริมาณที่สูงจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อต่างๆ ได้ง่ายกว่าคนที่ไม่ดื่ม ทำให้เกิดโรคปอดอักเสบจากการติดเชื้อ หรือปอดบวม (pneumonia) ได้ เพราะเครื่องดื่มแอลกอฮอล์สามารถลดการทำงานของโทนกล้ามเนื้อบริเวณคอหอย ซึ่งจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการทำให้เชื้อลงปอด และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ยังทำให้การทำงานของเม็ดเลือดขาวที่ทำหน้าที่กำจัดเชื้อโรคต่างๆ ในร่างกายแย่ลงส่งผลให้เกิดการติดเชื้อได้ง่ายขึ้นกว่าผู้ที่ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งขณะนี้ประเทศไทยกำลังเร่งเดินหน้าการฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้ประชาชน ซึ่งจะช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันร่างกาย ลดอัตราการเสียชีวิต ป้องกันอาการป่วยหนัก สร้างภูมิคุ้มกันหมู่ และลดการติดเชื้อได้
https://www.banmuang.co.th/news/bangkok/243735
18 ก.ค. 65 / อ่าน 1415
14 ก.ค. 65 / อ่าน 1237
12 ก.ค. 65 / อ่าน 1484
11 ก.ค. 65 / อ่าน 1586
5 ก.ค. 65 / อ่าน 959
4 ก.ค. 65 / อ่าน 1039