20 ปี งดเหล้าเข้าพรรษา ชูแนวคิด 'ซูเปอร์แม่พ่อ พอแล้วเหล้าเบียร์' สร้างครอบครัวเป็นพื้นที่ปลอดภัย

นับตั้งแต่ปี 2546 ที่สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ หรือ สสส. ทำการรณรงค์เพื่อขับเคลื่อนการลดการดื่มเหล้าในสังคมไทย โดยใช้แคมเปญ งดเหล้าเข้าพรรษา เป็นการนำร่องเพื่อให้กลไกทางสังคม ทั้งวัด ชุมชน ครอบครัว โรงเรียน ช่วยกันทำให้คนไทยเปลี่ยนพฤติกรรม โดยตลอด 20 ปีที่ผ่านมา สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า และสมาคมเครือข่ายงดเหล้าและลดปัจจัยเสี่ยงต่อสุขภาพ มีการเก็บสถิติตัวเลข พบว่ามีคนปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดื่มช่วงเข้าพรรษาได้ประมาณ 6.6 ล้านคน ทางด้านศูนย์วิจัยเพื่อการพัฒนาสังคมและธุรกิจ (SAB) พบว่าการงดเหล้าเข้าพรรษา ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายทั้งประเทศได้ประมาณ 3,397 ล้านบาท เฉลี่ยช่วง 3 เดือน สามารถประหยัดเงินได้ 1,432 บาทต่อครัวเรือน

สำหรับปีนี้ ทางสสส. ได้เริ่มแคมเปญ งดเหล้าเข้าพรรษา ภายใต้แนวคิด “งดเหล้าเข้าพรรษา มหามงคล ซูเปอร์แม่พ่อ พอแล้วเหล้าเบียร์” โดยได้จัดงานแถลงข่าวที่ศูนย์การเรียนรู้สุขภาวะ และถ่ายทอดสดผ่านระบบออนไลน์ มีนิทรรศการผลงานของเครือข่าย ได้แก่ โรงเรียนวัดโสภณาราม (ปลั่งรวมราษฎร์บำรุง) นำเสนอผลงานเครือข่ายรณรงค์โพธิสัตว์น้อยลูกขอพ่อแม่เลิกเหล้า ศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนชุมชนกุฎีขาว นำเสนอผลงาน เครือข่ายปลูกพลังบวกเพื่อสร้างจิตสำนึกภูมิคุ้มกันลดปัจจัยเสี่ยง (เหล้า บุหรี่) สำหรับเด็กปฐมวัย และ สายด่วนเลิกเหล้า 1413

ภายในงานมีการนำเสนอสปอตรณรงค์ในชื่อ “Mr.พ่อ พอแล้วเหล้า” และละครสั้นซูเปอร์แม่พ่อ ฮีโร่ในใจลูก ปาฐกถาจากแขกรับเชิญที่เป็นภาคีเครือข่ายถึงผลความสำเร็จในการทำงานขับเคลื่อนการงดเหล้าเข้าพรรษา ได้แก่

พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล เจ้าอาวาสวัดป่าสุคะโต อำเภอแก้งคร้อ จังหวัดชัยภูมิ ในหัวข้อ “พลังแห่งครอบครัวสู่การงดเหล้าเข้าพรรษา”

นายบุญลือ ธรรมธรานุรักษ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารการปกครองท้องที่ กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ได้เล่าถึงความสำเร็จของกลไกการปกครองของนายอำเภอทั้ง 878 อำเภอทั่วไทย รวมถึงกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ในการสร้างความร่วมมือร่วมใจจัดกิจกรรมงดเหล้าในชุมชนต่างๆ ทั่วไทย

ดร.บรรเจอดพร สู่แสนสุข รองผู้อำนวยการสำนักนวัตกรรมการจัดการศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กระทรวงศึกษาธิการ ที่ถ่ายทอดมุมมองของหน่วยงานด้านการศึกษาที่ได้ดำเนินโครงการโพธิสัตว์น้อยลูกขอพ่อแม่เลิกเหล้า จนเด็กๆ สามารถชวนพ่อแม่ผู้ปกครองเลิกเหล้าได้จริง จนมีเวลาทุ่มเทให้กับครอบครัวอีกครั้ง

รศ.พญ.รัศมน กัลยาศิริ ผู้อำนวยการศูนย์ปรึกษาเพื่อการเลิกสุราและการเสพติด 1413 สายด่วนเลิกเหล้า ได้ถ่ายทอดวิธีการทำงานการให้คำปรึกษาเลิกสุราทางโทรศัพท์ โดยจะมีขั้นตอนต่างๆ เพื่อการเลิกเหล้าได้สำเร็จและปลอดภัย

นายธีระ วัชรปราณี ผู้จัดการสำนักเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) ได้มาสรุปบทเรียนการทำงานโครงการงดเหล้าเข้าพรรษาตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงปัจจุบัน เป็นเวลากว่า 20 ปี และความสำเร็จที่เกิดขึ้นในการเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคสุราของชาวไทย

ทางด้าน ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ ก็ได้กล่าวถึงผลการทำงานว่าปีนี้ สสส. รณรงค์ลด ละ เลิก เหล้าร่วมกับ 1,048 ชุมชน รวม 158 อำเภอทั่วประเทศ โดยตั้งเป้าขยายไป 500 อำเภอ ผ่านโครงการพัฒนาคนหัวใจหิน หัวใจเหล็ก หัวใจเพชร ร่วมกับชุมชน สถานศึกษา เพื่อให้แต่ละครอบครัวงดดื่มเหล้าได้ตลอด 3 เดือนช่วงเข้าพรรษา

“ไฮไลต์หรือจุดเน้นสำคัญของการดำเนินงานในปีนี้ก็คือ “ครอบครัว” ซึ่งเราเรียนรู้ต่อเนื่องจากแคมเปญปีที่แล้วว่า ครอบครัวเป็นจุดสำคัญที่รั้งกระตุกนักดื่มลง จึงใช้แคมเปญงดเหล้าเข้าพรรษามหามงคล ซูเปอร์แม่พ่อ พอแล้วเหล้าเบียร์ เนื่องจากพ่อแม่ถือเป็น “ซูเปอร์ฮีโร่” ของลูกอยู่แล้ว ในการเป็นต้นแบบให้แก่ลูกในทุกเรื่อง การใช้ความรักในครอบครัวหรือการดึงใจทางบวก น่าจะเป็นอีกส่วนที่ได้ผลกว่าการใช้ความกลัวในเรื่องของโรคภัยไข้เจ็บที่จะตามมา ซึ่งส่วนใหญ่เป็นโรคเรื้อรังและมาปรากฏในช่วงวัยกลางคนไปแล้ว”

นอกจากนี้ ยังมีครอบครัวตัวอย่างที่สามารถละ ละ เลิก เหล้า ได้สำเร็จ ได้มาแบ่งปันประสบการณ์ จากว่าที่ร้อยตรีนิพล แสงศรีธูป นางยุวดี แสงศรีธูป และลูกสาว น้องไอโฟน เด็กหญิงณิชกุล แสงศรีธูป ที่ได้ร่วมโครงการโพธิสัตว์น้อยลูกขอพ่อแม่เลิกเหล้า ซึ่งพ่อแม่ทั้งคู่นั้นเป็นครูอยู่แล้ว จึงต้องการเลิกดื่มเหล้าเพื่อเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับนักเรียน และประหยัดเงินเพื่อใช้สำหรับเป็นทุนการศึกษาให้กับลูก

คุณพ่อขวัญ และน้องปันปัน ชั้น ป.3 โรงเรียนอนุบาลประภารัตน์ จากอำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา โดยคุณพ่อได้เล่าประสบการณ์จริงของตนเองว่าเคยตั้งปณิธานในการงดเหล้าเข้าพรรษามาหลายปี แต่ทำได้แค่ 2 อาทิตย์ก็ตบะแตก แต่เมื่อเห็นลูกค่อยๆ เติบโตขึ้นเรื่อยๆ จึงตั้งปณิธานใหม่ว่าจะงดเหล้าให้นานถึง 10 ปี เพื่อลูก ซึ่งตอนนี้ก็เลิกเหล้ามาได้หนึ่งปีแล้ว

คุณพ่อสมพงษ์ สมควร อาชีพค้าขาย ได้เข้าร่วมโครงการปลูกพลังบวกเพื่อสร้างจิตสำนึกภูมิคุ้มกันลดปัจจัยเสี่ยง (เหล้า บุหรี่) สำหรับเด็กปฐมวัย ระดับจังหวัด ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลเมืองน่าน โดยได้เล่าประสบการณ์ว่าในอดีตเป็นคนที่ดื่มเหล้ามาตั้งแต่หนุ่มๆ แต่พอมีลูกก็เริ่มคิดว่าไม่อยากเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีกับลูกจึงตัดสินใจเลิกเหล้า ทำให้มีเงินเก็บมากขึ้น

สำหรับผู้ที่สนใจเข้าร่วมแคมเปญหรือต้องการเลิกเหล้า สามารถเข้าไปศึกษาข้อมูลที่เป็นประโยชน์ได้ที่ เว็บไซต์ศูนย์ปรึกษาเพื่อการเลิกสุราและการเสพติด (1413 สายด่วนเลิกเหล้า) www.1413.in.th หรือเฟซบุ๊ก www.facebook.com/1413helpline 

 

 

https://www.thairath.co.th/news/local/2444715

เรื่องอื่นๆ